|
ณ เวลา 10:00 น.
|
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงดอยอ่างขาง สถานที่พักดอยอ่างขาง ดอกไม้เมืองหนาวในดอยอ่างขาง รวมถึงชมโครงการหลวงดอยอ่างขาง
สภาพอากาศ ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2555
ดอยอ่างขาง..ต้นแบบจัดการขยะบนที่สูง ย่อยสลายด้วยวิธีธรรมชาติและการรีไซเคิล
ปัญหาการจัดการสิ่งแวดล้อมด้านขยะมูลฝอย
นับเป็นปัญหาเร่งด่วนที่หลายพื้นที่กำลังต้องการการแก้ไขอย่างเหมาะสม
เนื่องจากปริมาณขยะที่นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว
หากละเลยปล่อยปละไม่ดูแล ก็อาจส่งผลกระทบทำให้เกิดความเสื่อมโทรมและหมดเสน่ห์ได้
เช่นเดียวกับ “พื้นที่ดอยอ่างขาง” แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยจากตัวเลขนักท่องเที่ยวในปี 2542 ถึงปัจจุบัน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งแต่ละปีมีนักทองเที่ยวประมาณ 200,000-300,000 คน จึงก่อให้เกิดปัญหาขยะมูลฝอยตามมา ทั้งยังพบว่าปริมาณขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นในพื้นที่มีปริมาณถึง 2-8 ตันต่อวัน
จากเดิมพื้นที่บนดอยอ่างขางใช้วิธีกำจัดโดยใช้วิธีเทกองตามหุบเขา ซึ่งเป็นการกำจัดที่ไม่ถูกวิธี “นายรังสรรค์ ปิ่นทอง” ผู้อำนวยการสำนักจัดการกากของเสียและสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวต้องมีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มีแนวโน้มว่าจะรุนแรงขึ้นในอนาคต เนื่องจากสภาพพื้นที่ที่เป็นที่สูงและเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญ
“เมื่อปี 2542 กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วท.) ร่วมกันดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา โดยช่วงต้นของการดำเนินการ คพ.ได้จัดหางบประมาณและร่วมกับ วท.ทำการศึกษาและออกแบบรายละเอียดเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาขยะในพื้นที่อ่างขางที่เป็นรูปแบบที่ชัดเจนและมีความต่อเนื่อง รวมทั้งสามารถนำรูปแบบที่ได้จากผลการศึกษาไปปรับใช้กับพื้นที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันต่อไป”
เช่นเดียวกับ “พื้นที่ดอยอ่างขาง” แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยจากตัวเลขนักท่องเที่ยวในปี 2542 ถึงปัจจุบัน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งแต่ละปีมีนักทองเที่ยวประมาณ 200,000-300,000 คน จึงก่อให้เกิดปัญหาขยะมูลฝอยตามมา ทั้งยังพบว่าปริมาณขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นในพื้นที่มีปริมาณถึง 2-8 ตันต่อวัน
จากเดิมพื้นที่บนดอยอ่างขางใช้วิธีกำจัดโดยใช้วิธีเทกองตามหุบเขา ซึ่งเป็นการกำจัดที่ไม่ถูกวิธี “นายรังสรรค์ ปิ่นทอง” ผู้อำนวยการสำนักจัดการกากของเสียและสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวต้องมีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มีแนวโน้มว่าจะรุนแรงขึ้นในอนาคต เนื่องจากสภาพพื้นที่ที่เป็นที่สูงและเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญ
“เมื่อปี 2542 กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วท.) ร่วมกันดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา โดยช่วงต้นของการดำเนินการ คพ.ได้จัดหางบประมาณและร่วมกับ วท.ทำการศึกษาและออกแบบรายละเอียดเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาขยะในพื้นที่อ่างขางที่เป็นรูปแบบที่ชัดเจนและมีความต่อเนื่อง รวมทั้งสามารถนำรูปแบบที่ได้จากผลการศึกษาไปปรับใช้กับพื้นที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันต่อไป”
สวัสดียามเช้า ณ ดอยอ่างขาง
สวัสดีค่ะ ปลายฝนต้นหนาวเริ่มเข้ามาแล้วนะค่ะ เช้าวันนี้ที่อำเภอฝางมีฝนตกเพื่อเพิ่มความเย็นช่ำกับพื้นป่า เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดอกไม้นานาพรรณ หลังจากปลายฝนไปแล้วความหนาวเย็นของหน้าหนาวก็เริ่มมาเยือนกันแล้วนะค่ะ ทุกคนเตรียมตัวกันหรือยังค่ะสำหรับการท่องเที่ยวในหน้าหนาวนี้ อย่าลืมมาแวะเวียนท่องเที่ยวดอยอ่างขางกันนะค่ะ แล้วคุณจะได้สัมผัสถึงธรรมชาติ ความงดงามของพรรณไม้นานาพรรณที่คูณสัมผัสแล้วคุณจะไม่ลืมเลือนไปได้เลยนะค่ะ...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)