ผลไม้อื่น ๆ อีกมากมายจากดอยอ่างขาง....


         ลูกไหน  เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่ปลูกที่ดอยอ่างข่าง   ซึ่งเป็นผลไม้ชื่อแปลกที่ทำเอาหลายคนงงเวลาไปเจอตามตลาด  เพราะเมื่อถามแม่ว่าลูกนี้ลูกอะไรค่ะ  แม้ค้ามักจะตอบกลับมาว่า ลูกไหน ๆๆ  ทุกทีไป   แต่เมื่อพูดถึงลูกไหนแล้วหลายคนอาจไม่คุ้นและไม่เคยลิ้มลอง แต่ถ้าบอกว่าเป็นลูกพรุน หรือลูกพลัม  ก็ค่อยคุ้นหูหรือเคยชิมกันมาแล้วบ้าง โดยทั้งสามลูกที่ว่านี้ก็คือผลไม้ชนิดเดียวกัน ลูกพรุนนั้นก็คือลูกพลัมตากแห้ง ส่วนลูกไหนนั้นก็เป็นชื่อที่คนจีนเรียกผลไม้ชนิดนี้    ประโยชน์ของลูกไหนหรือลูกพลัม หรือแม้จะตากแห้งเป็นลูกพรุนแล้วนั้นก็มีมากมาย โดยมีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นแมกนีเซียม โปแตสเซียม ฟอสฟอรัส และสังกะสี อีกทั้งยังมีธาตุเหล็กสูง และให้วิตามิน บี1, บี2, บี3 วิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ  และคุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างหนึ่งก็คือการเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ สามารถอุ้มน้ำไว้ระหว่างใย จึงทำให้กากอาหารนิ่ม ขับถ่ายง่าย มีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ เหมาะสำหรับคนท้องผูกเป็นอย่างยิ่ง 





          ลูกพีช   เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่ปลูกบนดอยอางข่าง  มีลักษณะสีเหลืองอมส้ม ที่มีวิตามินเอและสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าคริบโตแซนทิน ป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลาย บำรุงหัวใจและกระเพาะอาหาร ยังมีเกลือแร่โรบอนที่เป็นตัวช่วยให้สมองของเรากระฉับกระเฉงและกระปรี้กระเปร่า มีพลังด้วยนะ   เราสามารถนำลูกพีชมาทำเป็นส้มตำได้  โดยนำมาสับเหมือนกับมะละกอ เครื่องปรุงเหมือนส้มตำทุกอย่างสาวชาวเขาเป็นผู้ตำให้ชิมหลายซุ้ม  และ ไอศครีม ลูกพีช ก็อร่อย จนต้องถามสูตรมาคือ หัวกะทิ 1 ส่วน +ลูกพีชสุก 1 ส่วน ปั่นรวมกัน แช่ช่องแข็ง ก็ได้ไอศกรีมหอมหวานอร่อย  ( ก่อนตักรอให้คลายความแข็งก่อน)  ผลไม้อี่นก็ทำเหมือนกันนะคะ จะเพิ่มความหวานโดยเติม น้ำผึ้งหรือนมสด นมข้น ได้แล้วแต่ชอบ แต่ต้องให้อยู่ในอัตราส่วนของหัวกะทิ ถ้ามากกว่าผลไม้ จะไม่ได้กลิ่นผลไม้    และได้ชิมน้ำลูกพีชด้วย ถึงฤดูลูกพีช ออก ทำกันได้เลยนะ




           อะโวคาโด   เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่ปลูกบนดอยอ่างขาง เป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาแถบเม็กซิโก  กัวเตมาลา  และหมู่เกาะเวสอินดีส  อะโวคาโดเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้ผลรับประทานกันมานานในอเมริกาและยุโรป  เนื่องจากมีคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์  แต่ในประเทศไทยไม่เป็นที่นิยมบริโภคมากนักเนื่องจากประเทศไทยของเรานั้นมีผลไม้อยู่หลากหลายชนิด จึงมีทางเลือกการบริโภคผลไม้อีกมากมาย ทั้งนี้คนไทยนิยมบริโภคผลไม้ที่มีรสหวาน กลิ่นหอมนุ่มนวล ซึ่งรสชาติ และกลิ่นของอะโวคาโดไม่ได้อยู่ในความประทับใจของคนไทยเลย แต่เมื่อนำมาวิเคราะห์คุณค่าทางอาหารเมื่อเทียบกับผลไม้อื่นพบว่า อะโวคาโดมีคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย



          กีวี ผลไม้เมืองหนาวอีกชนิดหนึ่งที่ปลูกบนดอยอ่างขาง  ประะโยชน์ของกีวี มีมากมายนัก ทั้งต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ช่วยลดแคลอรีและเรื่องระบบการเผาผลานที่ดี อีกทั้งยังมีวิตตามินซีสูงมาก   กีวียังเป็นแหล่งวิตามินซีในปริมาณสูงสุด    นอกจากกีวีสีเขียวที่เราคุ้นเคยยังมีกีวีโกลด์หรือกีวีสีทองให้เลือกบริโภค กีวีทั้งสองชนิดมีปริมาณวิตามินซีสูงสุดหากเทียบกับผลไม้ขึ้นชื่อเรื่องวิตามินซี อาทิ ส้ม หรือมะละกอ จากการวิจัยพบว่ากีวีหนึ่งผล มีวิตามินซีมากกว่าส้มหนึ่งลูกถึง 74% การรับประทานกีวีสองผลต่อวันจะช่วยเพิ่มปริมาณวิตามินซีในร่างกายอย่างเห็นได้ชัด ช่วยกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันโรคซึ่งเป็นเกราะธรรมชาติที่ช่วยป้องกัน ไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่ และซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอและกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ๆ    กีวีอุดมด้วยโฟเลต สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์    โฟเลตมีบทบาทสำคัญในการสร้างสารพันธุกรรมจึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเด็กทารกและคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการเซลล์ใหม่เป็นจำนวนมาก การรับประทานโฟเลตเป็นประจำทั้งก่อนและระหว่างตั้งครรภ์ ยังช่วยทำให้ผิวและเซลล์เม็ดเลือดมีสุขภาพดี กีวีมีปริมาณโฟเลตสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับกล้วย มะม่วง สัปปะรด และแอปเปิ้ล โดยมากกว่ากล้วย 49% และมากกว่ามะม่วงถึง 112.8%